BlockchainReview ANN
Photo
“The 1” รุกตลาดคริปโตฯ จับมือ “Zipmex” ปฏิวัติวงการลอยัลตี้ เปิดตัว “ใช้คะแนน The 1 แลกคริปโตฯ” ครั้งแรก! ในเอเชีย บนแอป The 1
The 1 (เดอะ วัน) ผู้นำดิจิทัลไลฟ์สไตล์และลอยัลตี้แพลตฟอร์มอันดับ 1 ของไทย ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล ที่มอบประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับสมาชิกกว่า 18 ล้านรายในยุคดิจิทัล ร่วมกับ “Zipmex” (ซิปเม็กซ์) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทยที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ประกาศความร่วมมือในการส่งเสริมการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชั่น The 1 ซึ่งเป็นเอ็กซคลูซีฟพาร์ทเนอร์ในธุรกิจรีเทลเพียงเจ้าเดียวในประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญ “ใช้คะแนน The 1 แลกคริปโตฯ” ครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียที่นำคะแนนสะสม The 1 มาแลกเป็นเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีผ่านแอปพลิเคชั่น The 1 ตอกย้ำกลยุทธ์ของ The 1 ที่มุ่งมั่นที่จะเป็น Your Everyday Lifestyle Platform และเปิดประสบการณ์ให้คริปโตเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น คุณสิรีธร สัจจทิพวรรณ Head of Program Management, The 1 App กล่าวว่า “The 1 มุ่งมั่นที่จะมอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกกว่า 18 ล้านคน ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์และความสนใจ…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/the-1-card-zipmex
The 1 (เดอะ วัน) ผู้นำดิจิทัลไลฟ์สไตล์และลอยัลตี้แพลตฟอร์มอันดับ 1 ของไทย ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล ที่มอบประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับสมาชิกกว่า 18 ล้านรายในยุคดิจิทัล ร่วมกับ “Zipmex” (ซิปเม็กซ์) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทยที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ประกาศความร่วมมือในการส่งเสริมการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชั่น The 1 ซึ่งเป็นเอ็กซคลูซีฟพาร์ทเนอร์ในธุรกิจรีเทลเพียงเจ้าเดียวในประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญ “ใช้คะแนน The 1 แลกคริปโตฯ” ครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียที่นำคะแนนสะสม The 1 มาแลกเป็นเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีผ่านแอปพลิเคชั่น The 1 ตอกย้ำกลยุทธ์ของ The 1 ที่มุ่งมั่นที่จะเป็น Your Everyday Lifestyle Platform และเปิดประสบการณ์ให้คริปโตเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น คุณสิรีธร สัจจทิพวรรณ Head of Program Management, The 1 App กล่าวว่า “The 1 มุ่งมั่นที่จะมอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกกว่า 18 ล้านคน ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์และความสนใจ…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/the-1-card-zipmex
blockchain-review.co.th
“The 1” รุกตลาดคริปโตฯ จับมือ “Zipmex” ปฏิวัติวงการลอยัลตี้ เปิดตัว “ใช้คะแนน The 1 แลกคริปโตฯ” ครั้งแรก! ในเอเชีย บนแอป The 1…
The 1 (เดอะ วัน) ผู้นำดิจิทัลไลฟ์สไตล์และลอยัลตี้แพลตฟอร์มอันดับ 1 ของไทย ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล ที่มอบประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับสมาชิกกว่า 18 ล้านรายในยุคดิจิทัล ร่วมกับ “Zipmex” (ซิปเม็กซ์) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประ…
BlockchainReview ANN
Photo
KillSwitch เปิดตัว V2 รองรับฟีเจอร์ใหม่ในอนาคต พร้อมเตรียมบุกตลาดต่างประเทศ
KillSwitch หนึ่งใน DeFi platform ฝีมือคนไทยที่คว้ารางวัลชนะเลิศโครงการ Blockathon ที่จัดโดย SCB10x มีการพัฒนา V2 เตรียมออกให้ใช้งาน เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้นกับคอนเซปที่ว่า ฟาร์มง่าย ออกไว หลับสบาย KillSwitch นั้นเป็น yield aggregator อยู่ในตระกูล Auto compound ที่จะช่วยนำ reward จากการ stake มาทบหน่วยการลงทุนให้เติบโตขึ้นภายในคลิกเดียว ซึ่ง KillSwitch ตอนนี้จะให้บริการอยู่บน BSC และ Polygon ภายในปีนี้เตรียมออกฟีเจอร์ใหม่อีก2 ฟีเจอร์เพื่อให้การทำธุรกรรมของทุกคนนั้นง่ายขึ้น 1.Mixture Swap เป็นฟีเจอร์ที่สามารถมา Swap จาก Token หรือ LP อะไรก็ได้ ไปเป็น Token หรือ LP อะไรก็ได้ เหมาะสำหรับสายฟาร์มที่เปลี่ยนที่ฟาร์มบ่อยๆ Take…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/killswitch-v2-press-release
KillSwitch หนึ่งใน DeFi platform ฝีมือคนไทยที่คว้ารางวัลชนะเลิศโครงการ Blockathon ที่จัดโดย SCB10x มีการพัฒนา V2 เตรียมออกให้ใช้งาน เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้นกับคอนเซปที่ว่า ฟาร์มง่าย ออกไว หลับสบาย KillSwitch นั้นเป็น yield aggregator อยู่ในตระกูล Auto compound ที่จะช่วยนำ reward จากการ stake มาทบหน่วยการลงทุนให้เติบโตขึ้นภายในคลิกเดียว ซึ่ง KillSwitch ตอนนี้จะให้บริการอยู่บน BSC และ Polygon ภายในปีนี้เตรียมออกฟีเจอร์ใหม่อีก2 ฟีเจอร์เพื่อให้การทำธุรกรรมของทุกคนนั้นง่ายขึ้น 1.Mixture Swap เป็นฟีเจอร์ที่สามารถมา Swap จาก Token หรือ LP อะไรก็ได้ ไปเป็น Token หรือ LP อะไรก็ได้ เหมาะสำหรับสายฟาร์มที่เปลี่ยนที่ฟาร์มบ่อยๆ Take…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/killswitch-v2-press-release
blockchain-review.co.th
KillSwitch เปิดตัว V2 รองรับฟีเจอร์ใหม่ในอนาคต พร้อมเตรียมบุกตลาดต่างประเทศ | Blockchain Review รีวิวทุกเรื่องราว ของ Blockchain…
KillSwitch หนึ่งใน DeFi platform ฝีมือคนไทยที่คว้ารางวัลชนะเลิศโครงการ Blockathon ที่จัดโดย SCB10x มีการพัฒนา V2 เตรียมออกให้ใช้งาน เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้นกับคอนเซปที่ว่า ฟาร์มง่าย ออกไว หลับสบาย KillSwitch นั้นเป็น yield aggregator อยู่ในตระกูล…
BlockchainReview ANN
Photo
DeFi WTF!! Guide Book เส้นทางสู่การเป็นชาวนาดิจิทัล ตอนที่ 9 Abracadabra ผู้ท้าชิงจาก DeFi 2.0 สู่การโค่นล้ม MakerDao
สวัสดีครับ ในช่วงที่ผ่านมานี้หลายๆคนอาจจะได้ยินคำว่า DeFi 2.0 กันมากขึ้น และบางคนมองในแง่บวกก็คิดว่าสิ่งนี้แหละที่จะมาเป็นวิวัฒนาการครั้งใหญ่ของวงการนี้ หรือบางคนอาจจะมองในแง่ร้ายคิดว่าสิ่งนี้แหละที่กำลังจะสร้างฟองสบู่ลูกใหญ่ขึ้นมาจริงๆ วันนี้เลยเป็นโอกาสอันดีที่ผู้อ่านจะได้เข้าใจหนึ่งในแพลตฟอร์มที่อยู่ในกลุ่ม DeFi 2.0 นั่นก็คือ Abracadabra ครับ โดยบทความนี้จะพาผู้อ่านมารู้จักว่า Abracadabra คืออะไร ทำงานอย่างไร และ $MIM Stablecoin ว่ามันมีข้อดีอะไรถึงได้กลายเป็น Stablecoin อันดับ 6 และ $SPELL เหรียญ Governance Token ของมันว่ามี Tokenonomics อย่างไรบ้าง รวมถีงความคิดเห็นส่วนตัวที่มีต่อแพลตฟอร์มนี้ครับ Abracadabra อยู่ในหมวดของ Lending protocol ที่อนุญาตให้ผู้ฝากนำสินทรัพย์ที่มีดอกเบี้ยมาค้ำประกันเพื่อกู้เหรียญ $MIM ออกไปใช้งานได้ หากผู้ฝากนำเหรียญ $MIM ไปฝากใน MIM-3LP3CRV ของ Curve ก็จะได้รับผลตอบแทน 3 อย่างคือ Trading fee, $CRV และ $SPELL…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/defi-wtf-guide-book-ep-9-defi-2.0-abracadabra/
สวัสดีครับ ในช่วงที่ผ่านมานี้หลายๆคนอาจจะได้ยินคำว่า DeFi 2.0 กันมากขึ้น และบางคนมองในแง่บวกก็คิดว่าสิ่งนี้แหละที่จะมาเป็นวิวัฒนาการครั้งใหญ่ของวงการนี้ หรือบางคนอาจจะมองในแง่ร้ายคิดว่าสิ่งนี้แหละที่กำลังจะสร้างฟองสบู่ลูกใหญ่ขึ้นมาจริงๆ วันนี้เลยเป็นโอกาสอันดีที่ผู้อ่านจะได้เข้าใจหนึ่งในแพลตฟอร์มที่อยู่ในกลุ่ม DeFi 2.0 นั่นก็คือ Abracadabra ครับ โดยบทความนี้จะพาผู้อ่านมารู้จักว่า Abracadabra คืออะไร ทำงานอย่างไร และ $MIM Stablecoin ว่ามันมีข้อดีอะไรถึงได้กลายเป็น Stablecoin อันดับ 6 และ $SPELL เหรียญ Governance Token ของมันว่ามี Tokenonomics อย่างไรบ้าง รวมถีงความคิดเห็นส่วนตัวที่มีต่อแพลตฟอร์มนี้ครับ Abracadabra อยู่ในหมวดของ Lending protocol ที่อนุญาตให้ผู้ฝากนำสินทรัพย์ที่มีดอกเบี้ยมาค้ำประกันเพื่อกู้เหรียญ $MIM ออกไปใช้งานได้ หากผู้ฝากนำเหรียญ $MIM ไปฝากใน MIM-3LP3CRV ของ Curve ก็จะได้รับผลตอบแทน 3 อย่างคือ Trading fee, $CRV และ $SPELL…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/defi-wtf-guide-book-ep-9-defi-2.0-abracadabra/
blockchain-review.co.th
DeFi WTF!! Guide Book เส้นทางสู่การเป็นชาวนาดิจิทัล ตอนที่ 9 Abracadabra ผู้ท้าชิงจาก DeFi 2.0 สู่การโค่นล้ม MakerDao | Blockchain…
สวัสดีครับ ในช่วงที่ผ่านมานี้หลายๆคนอาจจะได้ยินคำว่า DeFi 2.0 กันมากขึ้น และบางคนมองในแง่บวกก็คิดว่าสิ่งนี้แหละที่จะมาเป็นวิวัฒนาการครั้งใหญ่ของวงการนี้ หรือบางคนอาจจะมองในแง่ร้ายคิดว่าสิ่งนี้แหละที่กำลังจะสร้างฟองสบู่ลูกใหญ่ขึ้นมาจริงๆ วันนี้เลยเป็นโอกา…
BlockchainReview ANN
Photo
GameFi WTF EP.4 ทำความรู้จักกับ Bunicorn เกม Ponzinomic แห่งโลก GameFi
สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาพูดถึงเกมที่ไม่น่าเรียกได้เต็มปากว่าเกม เพราะเกมเพลย์อันน้อยนิด และระบบการเล่นที่มีอยู่จำกัด แต่จะเน้นหนักไปที่ระบบเศรษฐกิจของเกม Play to Earn ที่มีการแจกรางวัลให้กับผู้เล่น(หรือผู้เข้ามากดๆ ในหน้าเว็บ) ซึ่งถ้าหากใครสามารถเข้าเกมนี้ตอนต้นสายได้ ก็จะคืนทุนเร็วและมีโอกาสสร้างกำไรได้มหาศาล ซึ่งเกมที่พูดถึงก็คือเกม Bunicorn นั่นเอง เกม Bunicorn คืออะไร? เกม Bunicorn คือเกมรูปแบบ Click-to-earn บน Binance Smart Chain โดยเกมรูปแบบนี้ จะมีเกมเพลย์ที่ค่อนข้างเรียบง่าย เพียงแค่ซื้อตัวละครที่จำเป็นมา แล้วผู้เล่นก็คลิกเลือกศัตรูที่ต้องการต่อสู้ แล้วระบบจะสุ่มผลลัพธ์ออกมา ถ้าผลออกมาชนะก็จะทำให้เราได้รับเหรียญคริปโตเป็นรางวัล ซึ่งจุดสำคัญของเกมรูปแบบนี้คือระบบเศรษฐกิจของเกมที่เป็น Ponzinomic หรือกึ่งๆแชร์ลูกโซ่ซึ่งจะมีการอธิบายในหัวข้อถัดไป สำหรับเกม Bunicorn ที่เปิดตัวเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากที่เกม Click-to-earn รุ่นพี่อย่าง Cryptoblades ส่อแววล่มสลายเพราะผู้เล่นใหม่หดหาย ทำให้ราคาเหรียญตกต่ำ ไม่พอจ่ายให้กับผู้เล่นเก่า เกม Bunicorn จึงได้นำเอาบทเรียนนี้มาใช้พัฒนาระบบโทเคนภายในเกมให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยผู้เล่นมีหน้าที่ซื้อเทรนเนอร์และน้องกระต่ายที่เป็น NFT มาต่อสู้เพื่อได้รับรางวัลเป็นเหรียญของเกมที่มีชื่อว่า $BUR นอกจากนี้ ตัวเกมยังมีโหมดอื่นๆเพิ่มขึ้นมานอกเหนือจากเกม Click-to-earn ทั่วๆไป เช่นโหมด Raid boss…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/gamefi-wtf-ep-4-bunicorn-ponzinomic/
สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาพูดถึงเกมที่ไม่น่าเรียกได้เต็มปากว่าเกม เพราะเกมเพลย์อันน้อยนิด และระบบการเล่นที่มีอยู่จำกัด แต่จะเน้นหนักไปที่ระบบเศรษฐกิจของเกม Play to Earn ที่มีการแจกรางวัลให้กับผู้เล่น(หรือผู้เข้ามากดๆ ในหน้าเว็บ) ซึ่งถ้าหากใครสามารถเข้าเกมนี้ตอนต้นสายได้ ก็จะคืนทุนเร็วและมีโอกาสสร้างกำไรได้มหาศาล ซึ่งเกมที่พูดถึงก็คือเกม Bunicorn นั่นเอง เกม Bunicorn คืออะไร? เกม Bunicorn คือเกมรูปแบบ Click-to-earn บน Binance Smart Chain โดยเกมรูปแบบนี้ จะมีเกมเพลย์ที่ค่อนข้างเรียบง่าย เพียงแค่ซื้อตัวละครที่จำเป็นมา แล้วผู้เล่นก็คลิกเลือกศัตรูที่ต้องการต่อสู้ แล้วระบบจะสุ่มผลลัพธ์ออกมา ถ้าผลออกมาชนะก็จะทำให้เราได้รับเหรียญคริปโตเป็นรางวัล ซึ่งจุดสำคัญของเกมรูปแบบนี้คือระบบเศรษฐกิจของเกมที่เป็น Ponzinomic หรือกึ่งๆแชร์ลูกโซ่ซึ่งจะมีการอธิบายในหัวข้อถัดไป สำหรับเกม Bunicorn ที่เปิดตัวเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากที่เกม Click-to-earn รุ่นพี่อย่าง Cryptoblades ส่อแววล่มสลายเพราะผู้เล่นใหม่หดหาย ทำให้ราคาเหรียญตกต่ำ ไม่พอจ่ายให้กับผู้เล่นเก่า เกม Bunicorn จึงได้นำเอาบทเรียนนี้มาใช้พัฒนาระบบโทเคนภายในเกมให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยผู้เล่นมีหน้าที่ซื้อเทรนเนอร์และน้องกระต่ายที่เป็น NFT มาต่อสู้เพื่อได้รับรางวัลเป็นเหรียญของเกมที่มีชื่อว่า $BUR นอกจากนี้ ตัวเกมยังมีโหมดอื่นๆเพิ่มขึ้นมานอกเหนือจากเกม Click-to-earn ทั่วๆไป เช่นโหมด Raid boss…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/gamefi-wtf-ep-4-bunicorn-ponzinomic/
blockchain-review.co.th
GameFi WTF EP.4 ทำความรู้จักกับ Bunicorn เกม Ponzinomic แห่งโลก GameFi | Blockchain Review รีวิวทุกเรื่องราว ของ Blockchain ประเทศไทย
ยาวไปอยากเลือกอ่าน แสดง เกม Bunicorn คืออะไร? เกมรูปแบบ Ponzinomic คืออะไร? DeFi Gaming การลงทุน, เกมเพลย์ และ ROI ระบบ Token ภายในเกม สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาพูดถึงเกมที่ไม่น่าเรียกได้เต็มปากว่าเกม เพราะเกมเพลย์อันน้อยนิด และระบบการเล่นที่มีอยู่จำกัด แต…
BlockchainReview ANN
Photo
DeFi WTF!! Guide Book เส้นทางสู่การเป็นชาวนาดิจิทัล ตอนที่ 10 OlympusDao ความเพ้อฝันหรือแนวคิดใหม่ของระบบ Liquidity Pool
สวัสดีครับ ในบทความก่อนเกี่ยวกับ Abracadabra ที่เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่อยู่ในกลุ่ม DeFi 2.0 คงจะได้เห็นความซับซ้อนและความพยายามในการสร้าง Stablecoin ที่ไม่มีศูนย์กลางแล้ว วันนี้ผมอยากจะมีแนะนำสองแพลตฟอร์มด้วยกัน ตัวแรกคือ OlympusDao ที่มีเป้าหมายในการสร้างเงินสำรองที่ไม่มีตัวกลาง (Decentralized Reserve Currency) และอีกแพลตฟอร์มหนึ่งซึ่งแยกออกมาชื่อ Olympus Pro ที่ตั้งใจจะช่วยแพลตฟอร์มอื่นๆในการแก้ปัญหาเรื่องสภาพคล่อง โดยรายละเอียดการทำงานของทั้งสองแพลตฟอร์มมีอะไรบ้าง ผลตอบแทนเป็นอย่างไร หรือความเสี่ยงอะไรบ้างที่ต้องรู้ก่อนลงทุน เกริ่นมาพอสมควรแล้วเดี๋ยวผมจะค่อยๆอธิบายไปในบทความนี้ครับ ปัญหาเรื่องสภาพคล่อง ก่อนที่จะอธิบายเนื้อหา ผมอยากอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแพลตฟอร์ม DEX ทั่วไปให้เข้าใจก่อนครับ โดยปกติแล้วทางแพลตฟอร์มจะไม่มีสภาพคล่องเป็นของตัวเอง จำเป็นต้องให้ผู้ใช้งานมาเพิ่มสภาพคล่องให้ ดังนั้นจึงสร้างแรงจูงใจให้คนเข้ามาเพิ่มสภาพคล่องด้วยการแจก Governance Token แต่ปัญหามันเกิดขึ้น ดังนี้ Toxic Liquidity: ในช่วงแรก คนที่เข้ามาเพิ่มสภาพคล่องเข้ามาเพราะผลประโยชน์เท่านั้น เมื่อได้ Governance Token มาก็จะเปรียบเทียบว่าระหว่างการขายทำกำไรหรือถือไว้ ทางไหนได้ผลตอบแทนสูงที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วแพลตฟอร์มที่เปิดมาใหม่ก็ยังไม่ได้มีการใช้งาน Governance Token ที่มากพอ จึงเกิดแรงเทขายเพื่อทำกำไรทั้งหมด ไม่ได้ต้องการมีส่วนร่วมอะไรกับแพลตฟอร์มในระยะยาว Price Drop: แรงเทขายจาก…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/defi-wtf-guide-book-ep-10-olympus-liquidity-pool/
สวัสดีครับ ในบทความก่อนเกี่ยวกับ Abracadabra ที่เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่อยู่ในกลุ่ม DeFi 2.0 คงจะได้เห็นความซับซ้อนและความพยายามในการสร้าง Stablecoin ที่ไม่มีศูนย์กลางแล้ว วันนี้ผมอยากจะมีแนะนำสองแพลตฟอร์มด้วยกัน ตัวแรกคือ OlympusDao ที่มีเป้าหมายในการสร้างเงินสำรองที่ไม่มีตัวกลาง (Decentralized Reserve Currency) และอีกแพลตฟอร์มหนึ่งซึ่งแยกออกมาชื่อ Olympus Pro ที่ตั้งใจจะช่วยแพลตฟอร์มอื่นๆในการแก้ปัญหาเรื่องสภาพคล่อง โดยรายละเอียดการทำงานของทั้งสองแพลตฟอร์มมีอะไรบ้าง ผลตอบแทนเป็นอย่างไร หรือความเสี่ยงอะไรบ้างที่ต้องรู้ก่อนลงทุน เกริ่นมาพอสมควรแล้วเดี๋ยวผมจะค่อยๆอธิบายไปในบทความนี้ครับ ปัญหาเรื่องสภาพคล่อง ก่อนที่จะอธิบายเนื้อหา ผมอยากอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแพลตฟอร์ม DEX ทั่วไปให้เข้าใจก่อนครับ โดยปกติแล้วทางแพลตฟอร์มจะไม่มีสภาพคล่องเป็นของตัวเอง จำเป็นต้องให้ผู้ใช้งานมาเพิ่มสภาพคล่องให้ ดังนั้นจึงสร้างแรงจูงใจให้คนเข้ามาเพิ่มสภาพคล่องด้วยการแจก Governance Token แต่ปัญหามันเกิดขึ้น ดังนี้ Toxic Liquidity: ในช่วงแรก คนที่เข้ามาเพิ่มสภาพคล่องเข้ามาเพราะผลประโยชน์เท่านั้น เมื่อได้ Governance Token มาก็จะเปรียบเทียบว่าระหว่างการขายทำกำไรหรือถือไว้ ทางไหนได้ผลตอบแทนสูงที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วแพลตฟอร์มที่เปิดมาใหม่ก็ยังไม่ได้มีการใช้งาน Governance Token ที่มากพอ จึงเกิดแรงเทขายเพื่อทำกำไรทั้งหมด ไม่ได้ต้องการมีส่วนร่วมอะไรกับแพลตฟอร์มในระยะยาว Price Drop: แรงเทขายจาก…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/defi-wtf-guide-book-ep-10-olympus-liquidity-pool/
blockchain-review.co.th
DeFi WTF!! Guide Book เส้นทางสู่การเป็นชาวนาดิจิทัล ตอนที่ 10 OlympusDao ความเพ้อฝันหรือแนวคิดใหม่ของระบบ Liquidity Pool | Blockchain…
ยาวไปอยากเลือกอ่าน แสดง OlympusDAO คืออะไร? Bond (1,1) Staking (3,3) เปรียบเทียบการขายและการ Stake OHM 3,3 Together Olympus Pro Game Theory ของ OlympusDAO สวัสดีครับ ในบทความก่อนเกี่ยวกับ Abracadabra ที่เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่อยู่ในกลุ่ม DeFi 2.0 คงจะได้…
BlockchainReview ANN
Photo
ผู้ก่อตั้ง Coin Asset เผยสาเหตุกรณีปัญหาการคืนโทเคน Jfin พร้อมเดินหน้าทวงความเป็นธรรม
เดิมทีบริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด หรือ CoinAsset เป็นเว็บเทรดคริปโตเคอเรนซีสัญชาติไทยที่เปิดตัวเมื่อปี 2562 โดยมี นายศิวนัส ยามดี เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง ซึ่งเมื่อดำเนินงานมาได้สักระยะหนึ่งก็ต้องพบอุปสรรคใหญ่จนเป็นสาเหตุให้ต้องปิดตัวลงในที่สุด เนื่องมาจากปัญหาภายในส่งผลให้ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจาก ก.ล.ต. โดยทาง ก.ล.ต. มีคำสั่งให้บริษัทโอนหรือส่งคืนทรัพย์สินให้แก่ลูกค้าหรือตามคำสั่งลูกค้า และขอให้แจ้งผลการดำเนินงานให้ ก.ล.ต. ทราบ ในขณะที่ CoinAsset ปิดไปมีลูกค้าไม่ได้สินทรัพย์คืนเป็นจำนวนมาก ซึ่งสินทรัพย์ที่ลูกค้าไม่ได้รับมอบคืนเยอะที่สุดนั่นก็คือโทเคน JFin จึงทำให้ผู้เสียหายเดินเรื่องฟ้องร้อง นายศิวนัส ยามดี ผู้ก่อตั้งเว็บเทรด CoinAsset จนมีคดีความกันเกิดขึ้น จากคำบอกเล่าของ นายศิวนัส ยามดี ได้ระบุว่า หลังจากที่เกิดการฟ้องร้องขึ้นตนได้ทำการตามหาโทเคน JFin จนพบ address ที่มีโทเคน JFin อยู่จำนวน 2,699,163 โทเคน ซึ่งพบว่าทางบริษัทพัฒนาซอฟแวร์ที่ CoinAsset เป็นผู้ว่าจ้างได้ทำการเก็บ Private Key เอาไว้เองและไม่ยอมส่งมอบเนื่องจากทาง CoinAsset ไม่มีเงินชำระค่าจ้างที่ค้างไว้ให้บริษัทพัฒนาซอฟแวร์ เมื่อเป็นดังนี้ทางผู้เสียหายจึงยื่นฟ้องบริษัทพัฒนาซอฟแวร์โดยที่ นาย…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/coin-asset-news
เดิมทีบริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด หรือ CoinAsset เป็นเว็บเทรดคริปโตเคอเรนซีสัญชาติไทยที่เปิดตัวเมื่อปี 2562 โดยมี นายศิวนัส ยามดี เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง ซึ่งเมื่อดำเนินงานมาได้สักระยะหนึ่งก็ต้องพบอุปสรรคใหญ่จนเป็นสาเหตุให้ต้องปิดตัวลงในที่สุด เนื่องมาจากปัญหาภายในส่งผลให้ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจาก ก.ล.ต. โดยทาง ก.ล.ต. มีคำสั่งให้บริษัทโอนหรือส่งคืนทรัพย์สินให้แก่ลูกค้าหรือตามคำสั่งลูกค้า และขอให้แจ้งผลการดำเนินงานให้ ก.ล.ต. ทราบ ในขณะที่ CoinAsset ปิดไปมีลูกค้าไม่ได้สินทรัพย์คืนเป็นจำนวนมาก ซึ่งสินทรัพย์ที่ลูกค้าไม่ได้รับมอบคืนเยอะที่สุดนั่นก็คือโทเคน JFin จึงทำให้ผู้เสียหายเดินเรื่องฟ้องร้อง นายศิวนัส ยามดี ผู้ก่อตั้งเว็บเทรด CoinAsset จนมีคดีความกันเกิดขึ้น จากคำบอกเล่าของ นายศิวนัส ยามดี ได้ระบุว่า หลังจากที่เกิดการฟ้องร้องขึ้นตนได้ทำการตามหาโทเคน JFin จนพบ address ที่มีโทเคน JFin อยู่จำนวน 2,699,163 โทเคน ซึ่งพบว่าทางบริษัทพัฒนาซอฟแวร์ที่ CoinAsset เป็นผู้ว่าจ้างได้ทำการเก็บ Private Key เอาไว้เองและไม่ยอมส่งมอบเนื่องจากทาง CoinAsset ไม่มีเงินชำระค่าจ้างที่ค้างไว้ให้บริษัทพัฒนาซอฟแวร์ เมื่อเป็นดังนี้ทางผู้เสียหายจึงยื่นฟ้องบริษัทพัฒนาซอฟแวร์โดยที่ นาย…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/coin-asset-news
blockchain-review.co.th
ผู้ก่อตั้ง Coin Asset เผยสาเหตุกรณีปัญหาการคืน JFin โทเคนพร้อมเดินหน้าทวงความเป็นธรรม | Blockchain Review รีวิวทุกเรื่องราว ของ…
เดิมทีบริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด หรือ CoinAsset เป็นเว็บเทรดคริปโตเคอเรนซีสัญชาติไทยที่เปิดตัวเมื่อปี 2562 โดยมี นายศิวนัส ยามดี เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง ซึ่งเมื่อดำเนินงานมาได้สักระยะหนึ่งก็ต้องพบอุปสรรคใหญ่จนเป็นสาเหตุให้ต้องปิดตัวลงในที่สุด เนื่องมาจากปั…
BlockchainReview ANN
Photo
DeFi WTF!! Guide Book เส้นทางสู่การเป็นชาวนาดิจิทัล ตอนที่ 11 DeFi 2.0 กับก้าวต่อไปของวงการ DeFi
DeFi 2.0 คืออะไร สวัสดีครับ ช่วงนี้หลายคนในวงการ DeFi น่าจะเคยได้ยินคำว่า DeFi 2.0 กันมาแน่ๆ แล้วนิยามของมันจริงๆคืออะไร และมีแพลตฟอร์มไหนบ้างเข้าข่าย DeFi 2.0 หลายคนน่าจะนึกไม่ค่อยออกเท่าไหร่ เอาจริงๆแล้วคำๆนี้เกิดจาก Tweet ของ @scupytrooples ที่ยกคำนี้มาใช้เป็นคนแรกๆ และอธิบายว่ามันคืออะไร เอารวมๆแล้วเท่าที่ผมเข้าใจ คือ แพลตฟอร์มระดับ DeFi 2.0 จะเป็นกลุ่มที่ “ดีขึ้นทุกอย่าง” เช่น ใช้เงินต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ มี Tokenomics ที่ล้ำๆ ต้นทุนถูกลง และหลายตัวจะแก้ปัญหา Liquidity ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ใน Thread ก็จะยกตัวอย่างหลายๆแพลตฟอร์มที่เข้าข่าย แต่เอาจริงๆพอฟังแบบนี้แล้ว ผมคิดว่าสโคปมันจะค่อนข้างกว้างกว่านั้นได้ด้วยซ้ำ วันนี้จะเลยมาแบ่งปันความคิดของผมว่า DeFi 2.0 น่าจะหมายถึงอะไรบ้างครับ ก่อนจะเข้าเรื่อง DeFi 2.0 มาดูปัญหาปัจจุบันที่ DeFi 1.0 เจอก่อนนะครับ ปัญหาของ…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/defi-wtf-guide-book-ep-11-defi-2.0/
DeFi 2.0 คืออะไร สวัสดีครับ ช่วงนี้หลายคนในวงการ DeFi น่าจะเคยได้ยินคำว่า DeFi 2.0 กันมาแน่ๆ แล้วนิยามของมันจริงๆคืออะไร และมีแพลตฟอร์มไหนบ้างเข้าข่าย DeFi 2.0 หลายคนน่าจะนึกไม่ค่อยออกเท่าไหร่ เอาจริงๆแล้วคำๆนี้เกิดจาก Tweet ของ @scupytrooples ที่ยกคำนี้มาใช้เป็นคนแรกๆ และอธิบายว่ามันคืออะไร เอารวมๆแล้วเท่าที่ผมเข้าใจ คือ แพลตฟอร์มระดับ DeFi 2.0 จะเป็นกลุ่มที่ “ดีขึ้นทุกอย่าง” เช่น ใช้เงินต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ มี Tokenomics ที่ล้ำๆ ต้นทุนถูกลง และหลายตัวจะแก้ปัญหา Liquidity ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ใน Thread ก็จะยกตัวอย่างหลายๆแพลตฟอร์มที่เข้าข่าย แต่เอาจริงๆพอฟังแบบนี้แล้ว ผมคิดว่าสโคปมันจะค่อนข้างกว้างกว่านั้นได้ด้วยซ้ำ วันนี้จะเลยมาแบ่งปันความคิดของผมว่า DeFi 2.0 น่าจะหมายถึงอะไรบ้างครับ ก่อนจะเข้าเรื่อง DeFi 2.0 มาดูปัญหาปัจจุบันที่ DeFi 1.0 เจอก่อนนะครับ ปัญหาของ…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/defi-wtf-guide-book-ep-11-defi-2.0/
blockchain-review.co.th
DeFi WTF!! Guide Book เส้นทางสู่การเป็นชาวนาดิจิทัล ตอนที่ 11 DeFi 2.0 กับก้าวต่อไปของวงการ DeFi | Blockchain Review รีวิวทุกเรื่องราว…
DeFi 2.0 คืออะไร สวัสดีครับ ช่วงนี้หลายคนในวงการ DeFi น่าจะเคยได้ยินคำว่า DeFi 2.0 กันมาแน่ๆ แล้วนิยามของมันจริงๆคืออะไร และมีแพลตฟอร์มไหนบ้างเข้าข่าย DeFi 2.0 หลายคนน่าจะนึกไม่ค่อยออกเท่าไหร่ เอาจริงๆแล้วคำๆนี้เกิดจาก Tweet ของ @scupytrooples ที่ยกคำนี้มาใช้เป็นคนแรกๆ…
BlockchainReview ANN
Photo
Blockchain Review Podcast EP – 49 DeFi 2.0 กับก้าวต่อไปของวงการ DeFi
DeFi 2.0 คืออะไรมาคุยกันครับ
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/blockchain-review-podcast-ep-49-defi-2-0
DeFi 2.0 คืออะไรมาคุยกันครับ
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/blockchain-review-podcast-ep-49-defi-2-0
blockchain-review.co.th
Blockchain Review Podcast EP - 49 DeFi 2.0 กับก้าวต่อไปของวงการ DeFi | Blockchain Review รีวิวทุกเรื่องราว ของ Blockchain ประเทศไทย
DeFi 2.0 คืออะไรมาคุยกันครับ 5 3 votes Article Rating
Blockchain Review Podcast EP–50 ภาพรวมตลาด Crypto ในปี 2022 (Cryptomind Investment Outlook 2022)
เล่าภาพรวมตลาด Crypto ในปี 2022 (Cryptomind Investment Outlook 2022)
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/blockchain-review-podcast-ep-50-cryptomind-investment-outlook-2022/
เล่าภาพรวมตลาด Crypto ในปี 2022 (Cryptomind Investment Outlook 2022)
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/blockchain-review-podcast-ep-50-cryptomind-investment-outlook-2022/
- Blockchain Review รีวิวทุกเรื่องราวของ blockchain ในประเทศไทย
Blockchain Review Podcast EP–50 ภาพรวมตลาด Crypto ในปี 2022 (Cryptomind Investment Outlook 2022) -
เล่าภาพรวมตลาด Crypto ในปี 2022 (Cryptomind Investment Outlook 2022)
BlockchainReview ANN
Photo
Blocksizewar สงครามการเมืองทียิ่งใหญ่ที่สุดใน Bitcoin
บทความนี้จะเอามาจากหนังสือ Bitcoin & Blockchain 101 เล่มใหม่ที่ผมเพิ่งขายไปเมื่อเดือนที่แล้วนะครับโดยจะเล่าถึงเหตุการณ์ Blocksizewar ที่เป็นสงครามการเมืองใน Bitcoin ในสมัยช่วง 2014-2017 ยังไงถ้าอ่านแล้วชอบกันฝากสนับสนุนหนังสือด้วยนะครับ บทที่ 6 การเมืองใน Bitcoin (Blocksize War) “ไม่คิดบ้างเหรอว่าเดียวในอนาคตก็อาจจะมีเหรียญหรือเทคโนโลยีอะไรที่ดีกว่า Bitcoin ออกมากก็ได้แล้วเดียว Bitcoin ก็ตายไป” อันที่จริงๆแล้วตอนแรกผมตั้งใจจะเล่าถึงเรื่องมูลค่าของ Bitcoin ว่ามาได้อย่างไร แต่ส่วนประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อมูลค่าและความเชื่อของมันนั้นคือความเป็น Decentralized ของมันที่ไม่อาจหาเหรียญใดๆมาเทียบได้จึงจำเป็นจะต้องอธิบายในส่วนนี้เสียก่อน ประโยคในข้างต้นเป็นแนวคิดหรือคำพูดที่หลายๆคนอาจจะคิดกันในอดีตจนตวบจนถึงปัจจุบันก็ยังมีคนที่คิดแบบนี้อยู่เช่นการมาของ CBDC จะทำให้ Bitcoin ไร้ค่าไป ซึ่งอันที่จริงแล้วมูลค่าของ Bitcoin นั้นไม่ได้มาจากอรรถประโยชน์หรือการใช้งานเท่าไหร่นัก ในทางกลับกันมีเหรียญจำนวนมากที่สามารถส่งได้เร็วกว่า Bitcoin ประยุกต์ใช้ได้มากมาย แต่ก็ไม่เคยมีเหรียญไหนสามารถชนะมันได้ในเชิงมูลค่า สาเหตุนั้นมาจากความเป็น Decentralized ของมันเนื่องจาก Bitcoin เกิดขึ้นมาในวันที่ไม่มีใครคิดว่ามันจะประสบความสำเร็จมันจึงค่อยๆเติบโตอย่างไร้เจ้าของ เมื่อเทียบกับเหรียญอื่นที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยมีจุดมุ่งหมายจึงมีการระดมทุน มีการเก็บเหรียญให้กับเจ้าของโครงการ หรือการที่เข้าของโครงการมีอิทธิพลต่อเหรียญมาก ทำให้ไม่สามารถมีเหรียญใดขึ้นมาแข่งเรื่องความเป็น Decentralized กับ Bitcoin ได้…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/blocksizewar-สงครามการเมืองทียิ่ง/
บทความนี้จะเอามาจากหนังสือ Bitcoin & Blockchain 101 เล่มใหม่ที่ผมเพิ่งขายไปเมื่อเดือนที่แล้วนะครับโดยจะเล่าถึงเหตุการณ์ Blocksizewar ที่เป็นสงครามการเมืองใน Bitcoin ในสมัยช่วง 2014-2017 ยังไงถ้าอ่านแล้วชอบกันฝากสนับสนุนหนังสือด้วยนะครับ บทที่ 6 การเมืองใน Bitcoin (Blocksize War) “ไม่คิดบ้างเหรอว่าเดียวในอนาคตก็อาจจะมีเหรียญหรือเทคโนโลยีอะไรที่ดีกว่า Bitcoin ออกมากก็ได้แล้วเดียว Bitcoin ก็ตายไป” อันที่จริงๆแล้วตอนแรกผมตั้งใจจะเล่าถึงเรื่องมูลค่าของ Bitcoin ว่ามาได้อย่างไร แต่ส่วนประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อมูลค่าและความเชื่อของมันนั้นคือความเป็น Decentralized ของมันที่ไม่อาจหาเหรียญใดๆมาเทียบได้จึงจำเป็นจะต้องอธิบายในส่วนนี้เสียก่อน ประโยคในข้างต้นเป็นแนวคิดหรือคำพูดที่หลายๆคนอาจจะคิดกันในอดีตจนตวบจนถึงปัจจุบันก็ยังมีคนที่คิดแบบนี้อยู่เช่นการมาของ CBDC จะทำให้ Bitcoin ไร้ค่าไป ซึ่งอันที่จริงแล้วมูลค่าของ Bitcoin นั้นไม่ได้มาจากอรรถประโยชน์หรือการใช้งานเท่าไหร่นัก ในทางกลับกันมีเหรียญจำนวนมากที่สามารถส่งได้เร็วกว่า Bitcoin ประยุกต์ใช้ได้มากมาย แต่ก็ไม่เคยมีเหรียญไหนสามารถชนะมันได้ในเชิงมูลค่า สาเหตุนั้นมาจากความเป็น Decentralized ของมันเนื่องจาก Bitcoin เกิดขึ้นมาในวันที่ไม่มีใครคิดว่ามันจะประสบความสำเร็จมันจึงค่อยๆเติบโตอย่างไร้เจ้าของ เมื่อเทียบกับเหรียญอื่นที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยมีจุดมุ่งหมายจึงมีการระดมทุน มีการเก็บเหรียญให้กับเจ้าของโครงการ หรือการที่เข้าของโครงการมีอิทธิพลต่อเหรียญมาก ทำให้ไม่สามารถมีเหรียญใดขึ้นมาแข่งเรื่องความเป็น Decentralized กับ Bitcoin ได้…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/blocksizewar-สงครามการเมืองทียิ่ง/
- Blockchain Review รีวิวทุกเรื่องราวของ blockchain ในประเทศไทย
Blocksizewar สงครามการเมืองทียิ่งใหญ่ที่สุดใน Bitcoin -
Blocksize War เป็นสงครามเชิงแนวคิดในตอนต้นและลามมาเป็นการเมืองและผลประโยชน์ระหว่างกลุ่มนักขุด (Miner) รวมถึงบริษัทต่างๆและกลุ่มผู้ตั้ง Node ทั่วไป
BlockchainReview ANN
Photo
มาก่อนกาล Milton Friedman นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล ได้ทำนายการมาของ Bitcoin และ Cryptocurrency ตั้งแต่ปี 1999
อันนี้เป็นเนื้อหาในหนังสือ Cryptocurrency & Digital asset 101 บทที่ 1 จาก Internet สู่ Cryptocurrency ที่เพิ่งตีพิมพ์ไปนะครับถ้าชอบกันสามารถสนับสนุนได้นะครับ (เอาฉบับ Draft มาเนื้อหาอาจจะพิมพ์ผิดบ้างนะ) “ผมคิดว่าอินเทอร์เนตจะเป็นกำลังหลักที่ลดบทบาทของรัฐบาลลง แตสิ่งที่ขาดไปที่น่าจะถูกพัฒนาขึ้นในเร็วๆนี้คือเงินอิเล็คทรอนิคส์ที่เชื่อถือได้ โดยคุณสามารถส่งเงินจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งด้วยอินเทอร์เนตโดยที่ทั้งสองคนนี้ไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ” นี่เป็นประโยคที่ Milton Friedman นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลได้พูดไว้บนเวที National Taxpayers union foundation ในปี 1999 ซึ่งเป็นการทำนายถึงการมาของ Bitcoin หรือแม้แต่ Cryptocurrency ทั้งที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งทำไม Milton ถึงสามารถทำนายสิ่งนี้ออกมาได้กัน มิลตันนั้นเป็นผู้ที่สนับสนุนทฤษฎีตลาดเสรีโดยมีความเชื่อที่ว่าการแข่งขันนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความก้าวหน้าและนวัตกรรม และการควบคุมดูแลและกำกับจากรัฐบาลหรือตัวกลางนั้นให้ผลเสียมากกว่าผลดี เนื่องจากว่ารัฐบาลไม่มีทางจัดสรรทรัพยากรได้ดีไปกว่าตลาดและราคา หรือพูดง่ายๆคือการที่คิดว่ารัฐบาลจะรู้ว่าผู้คนมีความต้องการในทรัพยากรหนึ่งมากน้อยเพียงใดเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เว้นแต่ให้ผู้คนเป็นผู้ให้คำตอบผ่านกลไกตลาดเองเท่านั้น และเงินเองก็เป็นหนึ่งในสิ่งนั้นเช่นกัน ตลาดคือผู้กำหนดว่าอะไรคือเงิน ในยุคที่ทุกคนคุ้นเคยกับเงินกระดาษหรือสิ่งใดที่นอกเหนือจากรัฐบาลบอกว่าคือเงินนั้นเราอาจจะคิดภาพยากเสียหน่อย แต่ถ้าเราย้อนไปในอดีตเงินถือเป็นสินค้าประเภทหนึ่งที่มีการแข่งขันกันในรูปแบบตลาดเสรี หรือเราจะเรียกได้ว่าสื่อกลางทีได้รับการยอมรับมากที่สุดในตลาดคือเงิน และมันมีแนวโน้มที่เงินที่ถูกยอมรับมากกว่าจะกลืนกินเงินที่ถูกยอมรับน้อยกว่าเช่นกัน ตัวอย่างเช่นในยุคสมัยหนึ่งที่ เปลือกหอยหรือเกลือนั้นถูกนำมาใช้เป็นเงินเพื่การแลกเปลี่ยน แม้ว่าอาจจะดูแปลกที่ในสมัยหนึ่งเราต้องพกเปลือกหอยหรือเกลือเพื่อไปจับจ่ายใช้สอยใดๆ แต่ในยุคสมัยนั้นมันก็เป็นสิ่งที่พกพาสะดวกในระดับหนึ่ง จนกระทั้งการเข้ามาของเทคโนโลยีการเดินเรือหรือการคมนาคมก็ทำให้เปลือกหาอยและเหลือเป็นสิ่งหาง่ายขึ้นเรื่อยๆจนไม่มีใครนำมันมาใช้เป็นสกุลเงินอีกต่อไปซึ่งเราจะเห็นว่านี่คือรูปแบบการแข่งขันที่สกุลเงินที่ดีกว่าจะมาแทนที่จากประสิทธิภาพที่ดีกว่า ทุกวันนี้การใช้สิ่งของเพื่อเป็นเงินนั้นแทบจะไม่เห็นอีกแล้วจากการแพร่หลายของสกุลเงินกระดาษแต่เราก็ยังเห็นได้จากบางที่ เช่นในคุกนั้นนักโทษจะใช้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรือบุหรี่แทนที่จะใช้เงินปกติในการแลกเปลี่ยนและซื้อในสิ่งที่พวกเขาต้องการแทน ทองผู้ชนะที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/มาก่อนกาล-milton-friedman-นักเศรษฐศาส/
อันนี้เป็นเนื้อหาในหนังสือ Cryptocurrency & Digital asset 101 บทที่ 1 จาก Internet สู่ Cryptocurrency ที่เพิ่งตีพิมพ์ไปนะครับถ้าชอบกันสามารถสนับสนุนได้นะครับ (เอาฉบับ Draft มาเนื้อหาอาจจะพิมพ์ผิดบ้างนะ) “ผมคิดว่าอินเทอร์เนตจะเป็นกำลังหลักที่ลดบทบาทของรัฐบาลลง แตสิ่งที่ขาดไปที่น่าจะถูกพัฒนาขึ้นในเร็วๆนี้คือเงินอิเล็คทรอนิคส์ที่เชื่อถือได้ โดยคุณสามารถส่งเงินจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งด้วยอินเทอร์เนตโดยที่ทั้งสองคนนี้ไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ” นี่เป็นประโยคที่ Milton Friedman นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลได้พูดไว้บนเวที National Taxpayers union foundation ในปี 1999 ซึ่งเป็นการทำนายถึงการมาของ Bitcoin หรือแม้แต่ Cryptocurrency ทั้งที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งทำไม Milton ถึงสามารถทำนายสิ่งนี้ออกมาได้กัน มิลตันนั้นเป็นผู้ที่สนับสนุนทฤษฎีตลาดเสรีโดยมีความเชื่อที่ว่าการแข่งขันนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความก้าวหน้าและนวัตกรรม และการควบคุมดูแลและกำกับจากรัฐบาลหรือตัวกลางนั้นให้ผลเสียมากกว่าผลดี เนื่องจากว่ารัฐบาลไม่มีทางจัดสรรทรัพยากรได้ดีไปกว่าตลาดและราคา หรือพูดง่ายๆคือการที่คิดว่ารัฐบาลจะรู้ว่าผู้คนมีความต้องการในทรัพยากรหนึ่งมากน้อยเพียงใดเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เว้นแต่ให้ผู้คนเป็นผู้ให้คำตอบผ่านกลไกตลาดเองเท่านั้น และเงินเองก็เป็นหนึ่งในสิ่งนั้นเช่นกัน ตลาดคือผู้กำหนดว่าอะไรคือเงิน ในยุคที่ทุกคนคุ้นเคยกับเงินกระดาษหรือสิ่งใดที่นอกเหนือจากรัฐบาลบอกว่าคือเงินนั้นเราอาจจะคิดภาพยากเสียหน่อย แต่ถ้าเราย้อนไปในอดีตเงินถือเป็นสินค้าประเภทหนึ่งที่มีการแข่งขันกันในรูปแบบตลาดเสรี หรือเราจะเรียกได้ว่าสื่อกลางทีได้รับการยอมรับมากที่สุดในตลาดคือเงิน และมันมีแนวโน้มที่เงินที่ถูกยอมรับมากกว่าจะกลืนกินเงินที่ถูกยอมรับน้อยกว่าเช่นกัน ตัวอย่างเช่นในยุคสมัยหนึ่งที่ เปลือกหอยหรือเกลือนั้นถูกนำมาใช้เป็นเงินเพื่การแลกเปลี่ยน แม้ว่าอาจจะดูแปลกที่ในสมัยหนึ่งเราต้องพกเปลือกหอยหรือเกลือเพื่อไปจับจ่ายใช้สอยใดๆ แต่ในยุคสมัยนั้นมันก็เป็นสิ่งที่พกพาสะดวกในระดับหนึ่ง จนกระทั้งการเข้ามาของเทคโนโลยีการเดินเรือหรือการคมนาคมก็ทำให้เปลือกหาอยและเหลือเป็นสิ่งหาง่ายขึ้นเรื่อยๆจนไม่มีใครนำมันมาใช้เป็นสกุลเงินอีกต่อไปซึ่งเราจะเห็นว่านี่คือรูปแบบการแข่งขันที่สกุลเงินที่ดีกว่าจะมาแทนที่จากประสิทธิภาพที่ดีกว่า ทุกวันนี้การใช้สิ่งของเพื่อเป็นเงินนั้นแทบจะไม่เห็นอีกแล้วจากการแพร่หลายของสกุลเงินกระดาษแต่เราก็ยังเห็นได้จากบางที่ เช่นในคุกนั้นนักโทษจะใช้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรือบุหรี่แทนที่จะใช้เงินปกติในการแลกเปลี่ยนและซื้อในสิ่งที่พวกเขาต้องการแทน ทองผู้ชนะที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์…
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/มาก่อนกาล-milton-friedman-นักเศรษฐศาส/
blockchain-review.co.th
มาก่อนกาล Milton Friedman นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล ได้ทำนายการมาของ Bitcoin และ Cryptocurrency ตั้งแต่ปี 1999 | Blockchain Review…
ยาวไปอยากเลือกอ่าน แสดง ตลาดคือผู้กำหนดว่าอะไรคือเงิน ทองผู้ชนะที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ เงินเฟียตเมื่อเงินเริ่มถูกผูกขาด เทคโนโลยีกับการพยายามทำลายการผูกขาด ระบบการเงินที่ถูกผูกขาด อันนี้เป็นเนื้อหาในหนังสือ Cryptocurrency & Digital asset 101 บทที่…