แนวทางการเบิกจ่ายกรณีขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจาก สปสช. กรณีความเสียหายที่เกิดจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับผู้ได้รับการฉีดวัคซีนจากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
ผู้รับบริการ/ทายาท/ผู้อุปการะ/ดำเนินการดังนี้
1. สามารถ Download แบบคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือ ได้ที่ QR Code
2. เตรียมเอกสารประกอบคำร้อง ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร เป็นต้น
3.1 ผู้ป่วย/ทายาท/ผู้อุปการะ สามารถยื่นคำร้องได้ที่ ศูนย์ประสานสิทธิ์ผู้ป่วยใน งานบริหารโรงพยาบาล โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โทร.0-5393-5151 และ 0-5393-6208 โทรสาร 0-5393-6210 (ในเวลาทำการ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30 – 20.30 น. และในวันหยุด วันเสาร์ เวลา 08.30 – 16.30 น. วันอาทิตย์ และหยุดนักขัตฤกษ์ 12.30-16.30 น.)
3.2 ผู้ได้รับความเสียหายที่เป็นบุคลากรสังกัดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สามารถยื่นคำร้องผ่านหน่วยงานต้นสังกัด และจัดส่งเอกสารไปยัง งานบริหารโรงพยาบาล โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โทร.0-5393-5603 (ในเวลาทำการ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.)
หมายเหตุ :
1. ผู้ยื่นคำร้องจะต้องมีประวัติการตรวจรักษากรณีแพ้วัคซีนของผู้ป่วยที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
2. กรณีฉีดวัคซีนโรงพยาบาลอื่นแต่รับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่สามารถติดต่อขอประวัติการรักษาพยาบาล ได้ที่ งานบริหารโรงพยาบาล โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โทร.0-5393-5601
3. ผู้ที่ฉีดวัคซีนทางเลือก (รัฐไม่ได้จัดหาวัคซีนให้) ไม่สามารถใช้บริการนี้ได้
ผู้รับบริการ/ทายาท/ผู้อุปการะ/ดำเนินการดังนี้
1. สามารถ Download แบบคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือ ได้ที่ QR Code
2. เตรียมเอกสารประกอบคำร้อง ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร เป็นต้น
3.1 ผู้ป่วย/ทายาท/ผู้อุปการะ สามารถยื่นคำร้องได้ที่ ศูนย์ประสานสิทธิ์ผู้ป่วยใน งานบริหารโรงพยาบาล โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โทร.0-5393-5151 และ 0-5393-6208 โทรสาร 0-5393-6210 (ในเวลาทำการ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30 – 20.30 น. และในวันหยุด วันเสาร์ เวลา 08.30 – 16.30 น. วันอาทิตย์ และหยุดนักขัตฤกษ์ 12.30-16.30 น.)
3.2 ผู้ได้รับความเสียหายที่เป็นบุคลากรสังกัดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สามารถยื่นคำร้องผ่านหน่วยงานต้นสังกัด และจัดส่งเอกสารไปยัง งานบริหารโรงพยาบาล โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โทร.0-5393-5603 (ในเวลาทำการ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.)
หมายเหตุ :
1. ผู้ยื่นคำร้องจะต้องมีประวัติการตรวจรักษากรณีแพ้วัคซีนของผู้ป่วยที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
2. กรณีฉีดวัคซีนโรงพยาบาลอื่นแต่รับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่สามารถติดต่อขอประวัติการรักษาพยาบาล ได้ที่ งานบริหารโรงพยาบาล โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โทร.0-5393-5601
3. ผู้ที่ฉีดวัคซีนทางเลือก (รัฐไม่ได้จัดหาวัคซีนให้) ไม่สามารถใช้บริการนี้ได้
คำแนะนำในการจัดผังห้องเรียน ในช่วงการระบาดของโควิด -19
โรงเรียนหลายแห่งเริ่มเปิดเทอม มีการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนตามปกติ แต่บางโรงเรียนยังใช้การเรียนแบบห้องเรียนเสมือน หรือ virtual classroom
คณะแพทยศาสตร์ มช. ได้รวบรวมคำแนะนำสำหรับการจัดห้องเรียนในช่วงระบาดของไวรัสโควิด-19 มาฝากทุกท่าน ดังนี้
1. ก่อนเข้าห้องเรียนต้องมีจุดล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ หรือสบู่ ควรติดป้ายแนะนำวิธีการล้างมือเพื่อให้เด็กนักเรียนปฏิบัติตามจนเกิดเป็นความเคยชิน
2.ในห้องเรียน ให้แยกโซนของคุณครูและนักเรียนให้ชัดเจน รวมถึงการติดสติ๊กเกอร์เป็นแนวทางการเดินในห้องเรียน เพื่อไม่ให้เด็กเดินสวนทางกัน กำหนดช่องทางเข้าและออกไว้ให้ชัดเจน
3. หันโต๊ะไปในทิศทางเดียวกัน โต๊ะที่ไม่ใช้ควรทำสัญลักษณ์กากบาท เพื่อส่งเสริมนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคม หรือหากห้องกว้างมากๆ ก็ควรจัดโต๊ะห่างกัน
4. ในบางกิจกรรมที่ต้องจัดโต๊ะเป็นกลุ่ม ควรนำฉากกั้นมาวางไว้ เพื่อให้เด็กๆเว้นระยะห่างกัน และต้องทำความสะอาดฉากกั้นบ่อยๆ เพราะถ้ามีคนป่วย ไอ จาม และเชื้อโรคติดอยู่บริเวณฉากกั้น เมื่อเด็กนักเรียนนำมือไปสัมผัสจะเพิ่มโอกาสการติดเชื้อได้
5. โซนคุณครู ควรมีฉากกั้น และมีอุปกรณ์ล้างมือ เช่น แอลกอฮอล์เจล์ตั้งไว้สำหรับทำความสะอาด
6. ในช่วงที่ไม่มีปัญหาฝุ่น PM2.5 ควรเปิดประตู หน้าต่างระบายอากาศ แต่หากเป็นช่วงที่มี PM2.5 ควรเปิดทั้งเครื่องปรับอากาศ และเครื่องฟอกอากาศ โดยในช่วงพัก แนะนำว่าควรปิดเครื่องปรับอากาศ แล้วเปิดประตู เปิดหน้าต่างเพื่อเป็นการระบายอากาศ
7. อุปกรณ์ทำความสะอาด อาทิ ทิชชู่เปียก ทิชชู่แห้ง แอลกอฮอล์เจล ควรเตรียมไว้ให้พร้อม และใช้ถังขยะชนิดเหยียบ
8. เด็กนักเรียนควรนั่งที่เดิมทุกวัน และจัดให้มีการทำผังที่นั่ง เพราะหากในอนาคตมีเด็กที่ป่วย ทางโรงเรียนสามารถระบุคนที่เสี่ยงได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การล้างมือให้สะอาด ใส่หน้ากากเป็นประจำ และเว้นระยะห่างทางสังคม ยังเป็นมาตรการที่จำเป็นอย่างยิ่ง ในการป้องกันโรคระบาดในปัจจุบัน
#MedCMU #MedCMUในมือคุณ
#คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #สุขภาพดีกับหมอสวนดอก
#สื่อสารองค์กรMedCMU
#COVID19
#ใส่Mask #เว้นระยะห่าง #ล้างมือ
โรงเรียนหลายแห่งเริ่มเปิดเทอม มีการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนตามปกติ แต่บางโรงเรียนยังใช้การเรียนแบบห้องเรียนเสมือน หรือ virtual classroom
คณะแพทยศาสตร์ มช. ได้รวบรวมคำแนะนำสำหรับการจัดห้องเรียนในช่วงระบาดของไวรัสโควิด-19 มาฝากทุกท่าน ดังนี้
1. ก่อนเข้าห้องเรียนต้องมีจุดล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ หรือสบู่ ควรติดป้ายแนะนำวิธีการล้างมือเพื่อให้เด็กนักเรียนปฏิบัติตามจนเกิดเป็นความเคยชิน
2.ในห้องเรียน ให้แยกโซนของคุณครูและนักเรียนให้ชัดเจน รวมถึงการติดสติ๊กเกอร์เป็นแนวทางการเดินในห้องเรียน เพื่อไม่ให้เด็กเดินสวนทางกัน กำหนดช่องทางเข้าและออกไว้ให้ชัดเจน
3. หันโต๊ะไปในทิศทางเดียวกัน โต๊ะที่ไม่ใช้ควรทำสัญลักษณ์กากบาท เพื่อส่งเสริมนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคม หรือหากห้องกว้างมากๆ ก็ควรจัดโต๊ะห่างกัน
4. ในบางกิจกรรมที่ต้องจัดโต๊ะเป็นกลุ่ม ควรนำฉากกั้นมาวางไว้ เพื่อให้เด็กๆเว้นระยะห่างกัน และต้องทำความสะอาดฉากกั้นบ่อยๆ เพราะถ้ามีคนป่วย ไอ จาม และเชื้อโรคติดอยู่บริเวณฉากกั้น เมื่อเด็กนักเรียนนำมือไปสัมผัสจะเพิ่มโอกาสการติดเชื้อได้
5. โซนคุณครู ควรมีฉากกั้น และมีอุปกรณ์ล้างมือ เช่น แอลกอฮอล์เจล์ตั้งไว้สำหรับทำความสะอาด
6. ในช่วงที่ไม่มีปัญหาฝุ่น PM2.5 ควรเปิดประตู หน้าต่างระบายอากาศ แต่หากเป็นช่วงที่มี PM2.5 ควรเปิดทั้งเครื่องปรับอากาศ และเครื่องฟอกอากาศ โดยในช่วงพัก แนะนำว่าควรปิดเครื่องปรับอากาศ แล้วเปิดประตู เปิดหน้าต่างเพื่อเป็นการระบายอากาศ
7. อุปกรณ์ทำความสะอาด อาทิ ทิชชู่เปียก ทิชชู่แห้ง แอลกอฮอล์เจล ควรเตรียมไว้ให้พร้อม และใช้ถังขยะชนิดเหยียบ
8. เด็กนักเรียนควรนั่งที่เดิมทุกวัน และจัดให้มีการทำผังที่นั่ง เพราะหากในอนาคตมีเด็กที่ป่วย ทางโรงเรียนสามารถระบุคนที่เสี่ยงได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การล้างมือให้สะอาด ใส่หน้ากากเป็นประจำ และเว้นระยะห่างทางสังคม ยังเป็นมาตรการที่จำเป็นอย่างยิ่ง ในการป้องกันโรคระบาดในปัจจุบัน
#MedCMU #MedCMUในมือคุณ
#คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #สุขภาพดีกับหมอสวนดอก
#สื่อสารองค์กรMedCMU
#COVID19
#ใส่Mask #เว้นระยะห่าง #ล้างมือ
ติดตามรับชมผ่านทาง Youtube : https://youtu.be/yZAZYz-rzBk
YouTube
คำแนะนำในการจัดผังห้องเรียน ในช่วงการระบาดของโควิด -19
คำแนะนำในการจัดผังห้องเรียน ในช่วงการระบาดของโควิด -19
โรงเรียนหลายแห่งเริ่มเปิดเทอม มีการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนตามปกติ แต่บางโรงเรียนยังใช้การเรียนแบบห้องเรียนเสมือน หรือ virtual classroom
คณะแพทยศาสตร์ มช. ได้รวบรวมคำแนะนำสำหรับการจัดห้…
โรงเรียนหลายแห่งเริ่มเปิดเทอม มีการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนตามปกติ แต่บางโรงเรียนยังใช้การเรียนแบบห้องเรียนเสมือน หรือ virtual classroom
คณะแพทยศาสตร์ มช. ได้รวบรวมคำแนะนำสำหรับการจัดห้…
🤔โรค NCDs คืออะไร
กลุ่มโรค NCDs (Noncommunicable diseases หรือโรคไม่ติดต่อ)
เป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง คือ ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคและไม่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ แต่เป็นโรคที่เกิดจากนิสัยหรือพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างไม่ระมัดระวัง นานวันเข้าสะสมไปเรื่อย ๆ ก็จะส่งผลต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังแบบไม่รู้ตัวได้ หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องและทันเวลา ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วย และคนรอบข้าง
กลุ่มโรค NCDs ประกอบด้วย
-โรคเบาหวาน
-โรคความดันโลหิตสูง
-โรคไขมันในเลือดสูง
-โรคอ้วน ลงพุง
-โรคหัวใจและหลอดเลือด
-โรคถุงลมโป่งพอง
- โรคมะเร็ง
พฤติกรรมเสี่ยงโรค NCDs
-การรับประทานอาหาร รสจัด เช่น หวานจัด มันจัด เค็มจัด อาหารปิ้งย่าง ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- สูบบุหรี่
-ไม่ออกกำลังกาย
-นอนดึก
-ความเครียด
ผู้ที่มีพฤติกรรมการดำเนินชีวิตเช่นนี้จึงมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรค NCDs ได้มากกว่าคนอื่นๆ
กลุ่มโรค NCDs สามารถป้องกันได้ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต หันมาดูแลสุขภาพร่างกาย รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควบคุมน้ำหนักตัว และตรวจสุขภาพเป็นประจำ
ข้อมูลโดย ผศ.นพ.อนุชาติ มาธนะสารวุฒิ อาจารย์พิเศษภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
#MedCMU #MedCMUในมือคุณ
#คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #สุขภาพดีกับหมอสวนดอก
#สื่อสารองค์กรMedCMU
กลุ่มโรค NCDs (Noncommunicable diseases หรือโรคไม่ติดต่อ)
เป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง คือ ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคและไม่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ แต่เป็นโรคที่เกิดจากนิสัยหรือพฤติกรรมการดำเนินชีวิตอย่างไม่ระมัดระวัง นานวันเข้าสะสมไปเรื่อย ๆ ก็จะส่งผลต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังแบบไม่รู้ตัวได้ หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องและทันเวลา ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วย และคนรอบข้าง
กลุ่มโรค NCDs ประกอบด้วย
-โรคเบาหวาน
-โรคความดันโลหิตสูง
-โรคไขมันในเลือดสูง
-โรคอ้วน ลงพุง
-โรคหัวใจและหลอดเลือด
-โรคถุงลมโป่งพอง
- โรคมะเร็ง
พฤติกรรมเสี่ยงโรค NCDs
-การรับประทานอาหาร รสจัด เช่น หวานจัด มันจัด เค็มจัด อาหารปิ้งย่าง ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- สูบบุหรี่
-ไม่ออกกำลังกาย
-นอนดึก
-ความเครียด
ผู้ที่มีพฤติกรรมการดำเนินชีวิตเช่นนี้จึงมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรค NCDs ได้มากกว่าคนอื่นๆ
กลุ่มโรค NCDs สามารถป้องกันได้ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต หันมาดูแลสุขภาพร่างกาย รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควบคุมน้ำหนักตัว และตรวจสุขภาพเป็นประจำ
ข้อมูลโดย ผศ.นพ.อนุชาติ มาธนะสารวุฒิ อาจารย์พิเศษภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
#MedCMU #MedCMUในมือคุณ
#คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #สุขภาพดีกับหมอสวนดอก
#สื่อสารองค์กรMedCMU
🚫🐷มือมีแผลแค่สัมผัสหมูดิบ ถึงตาย ไม่ใช่แค่หูดับ
เชื้อสเตร็พโตค็อกคัส ซูอิส (STREPTOCOCCUS SUIS) อยู่ในทางเดินหายใจ และอยู่ในเลือดของหมูที่ป่วย และติดต่อจากหมูสู่คน การติดเชื้อไม่ได้เกิดจากระบบการหายใจ แต่เป็นการติดเชื้อผ่านบาดแผลตามร่างกาย หรือเข้าทางเยื่อบุตา หรือผู้ที่รับประทานเนื้อหมูดิบ
🤔ติดต่อได้โดย
1 .เกิดจากการบริโภคเนื้อหมู เครื่องใน และเลือดหมูที่ดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ
2. เกิดจากการสัมผัสกับหมูที่ติดเชื้อ รวมทั้งเนื้อหมู เครื่องในหมู และเลือดของหมูที่เป็นโรค โดยติดต่อสู่คนทางบาดแผล รอยขีดข่วนตามร่างกายหรือทางเยื่อบุตา หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งของหมู เช่น น้ำมูก น้ำลาย
อาการของผู้ที่ติดเชื้อ
🤒อาการทั่วไป
-ไข้สูง
-อุจจาระร่วง
-เวียนศีรษะ
-หอบเหนื่อย
-หนาวสั่น
😰อาการเฉพาะ
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบ มีไข้ ปวดศีรษะมาก คอแข็ง
- หากเชื้อเข้าปลายระบบประสาทหู จะทำให้การได้ยินลดลงอย่างเฉียบพลัน จนถึงขั้นหูหนวกทั้งสองข้าง
-บางรายติดเชื้อในเลือดอย่างรุนแรง
-ผู้ป่วยที่รอดชีวิตบางรายยังคงมีความพิการหลงเหลืออยู่ เช่น หูหนวกทั้ง 2 ข้าง และเป็นอัมพาตครึ่งซีก
♨️การป้องกัน
1.หลีกเลี่ยงการบริโภคหมูดิบ ปรุงให้สุกจนเนื้อไม่มีสีแดง ไม่ทานสุกๆ ดิบๆ
2. หากมีบาดแผล รอยขีดข่วน ต้องปิดแผลให้มิดชิด สวมถุงมือ ก่อนสัมผัสเนื้อหมูดิบทุกครั้ง และเมื่อสัมผัสแล้วให้ล้างมือให้สะอาดทันที
🧐ข้อแนะนำ
-ควรเลือกซื้อเนื้อหมู จากตลาดสด หรือ ห้างสรรพสินค้า ที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน
-ไม่ซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาว สีคล้ำ
- ไม่บริโภคเนื้อหมูดิบโดยเด็ดขาด
- ไม่บริโภคเนื้อหมูที่ป่วย หรือหมูตายจากโรค
-สำหรับผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ แม่ค้าหมูสด ควรสวมรองเท้าบู๊ทยาง สวมถุงมือ รวมถึงสวมเสื้อที่รัดกุมระหว่างทำงาน หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด และล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง
** หากมีอาการป่วยหลังสัมผัสหมู หรือหลังทานอาหารที่ปรุงมาจากเนื้อหมูดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ ให้รีบพบแพทย์ทันที จะช่วยลดอัตราการหูหนวกและเสียชีวิตได้
ข้อมูลโดย ผศ.พญ.ศณัฐธร เชาวน์ศิลป์ อาจารย์ประจำภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
#MedCMU #MedCMUในมือคุณ
#คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #สุขภาพดีกับหมอสวนดอก
#สื่อสารองค์กรMedCMU #STREPTOCOCCUS SUIS
เชื้อสเตร็พโตค็อกคัส ซูอิส (STREPTOCOCCUS SUIS) อยู่ในทางเดินหายใจ และอยู่ในเลือดของหมูที่ป่วย และติดต่อจากหมูสู่คน การติดเชื้อไม่ได้เกิดจากระบบการหายใจ แต่เป็นการติดเชื้อผ่านบาดแผลตามร่างกาย หรือเข้าทางเยื่อบุตา หรือผู้ที่รับประทานเนื้อหมูดิบ
🤔ติดต่อได้โดย
1 .เกิดจากการบริโภคเนื้อหมู เครื่องใน และเลือดหมูที่ดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ
2. เกิดจากการสัมผัสกับหมูที่ติดเชื้อ รวมทั้งเนื้อหมู เครื่องในหมู และเลือดของหมูที่เป็นโรค โดยติดต่อสู่คนทางบาดแผล รอยขีดข่วนตามร่างกายหรือทางเยื่อบุตา หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งของหมู เช่น น้ำมูก น้ำลาย
อาการของผู้ที่ติดเชื้อ
🤒อาการทั่วไป
-ไข้สูง
-อุจจาระร่วง
-เวียนศีรษะ
-หอบเหนื่อย
-หนาวสั่น
😰อาการเฉพาะ
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบ มีไข้ ปวดศีรษะมาก คอแข็ง
- หากเชื้อเข้าปลายระบบประสาทหู จะทำให้การได้ยินลดลงอย่างเฉียบพลัน จนถึงขั้นหูหนวกทั้งสองข้าง
-บางรายติดเชื้อในเลือดอย่างรุนแรง
-ผู้ป่วยที่รอดชีวิตบางรายยังคงมีความพิการหลงเหลืออยู่ เช่น หูหนวกทั้ง 2 ข้าง และเป็นอัมพาตครึ่งซีก
♨️การป้องกัน
1.หลีกเลี่ยงการบริโภคหมูดิบ ปรุงให้สุกจนเนื้อไม่มีสีแดง ไม่ทานสุกๆ ดิบๆ
2. หากมีบาดแผล รอยขีดข่วน ต้องปิดแผลให้มิดชิด สวมถุงมือ ก่อนสัมผัสเนื้อหมูดิบทุกครั้ง และเมื่อสัมผัสแล้วให้ล้างมือให้สะอาดทันที
🧐ข้อแนะนำ
-ควรเลือกซื้อเนื้อหมู จากตลาดสด หรือ ห้างสรรพสินค้า ที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน
-ไม่ซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาว สีคล้ำ
- ไม่บริโภคเนื้อหมูดิบโดยเด็ดขาด
- ไม่บริโภคเนื้อหมูที่ป่วย หรือหมูตายจากโรค
-สำหรับผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ แม่ค้าหมูสด ควรสวมรองเท้าบู๊ทยาง สวมถุงมือ รวมถึงสวมเสื้อที่รัดกุมระหว่างทำงาน หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด และล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง
** หากมีอาการป่วยหลังสัมผัสหมู หรือหลังทานอาหารที่ปรุงมาจากเนื้อหมูดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ ให้รีบพบแพทย์ทันที จะช่วยลดอัตราการหูหนวกและเสียชีวิตได้
ข้อมูลโดย ผศ.พญ.ศณัฐธร เชาวน์ศิลป์ อาจารย์ประจำภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
#MedCMU #MedCMUในมือคุณ
#คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #สุขภาพดีกับหมอสวนดอก
#สื่อสารองค์กรMedCMU #STREPTOCOCCUS SUIS
ประกาศสำหรับบุคลากรคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ที่เดินทางไปยังสถานที่เสี่ยงสูงและการปฏิบัติตัว
(Update 26/06/64 เวลา 10.30 น.)
📍13 มิ.ย. 64
- 07.00-11.00 น. ร้าน Amazon ปตท. สาขาแม่เหียะ
- 13.00-15.00 น. ร้านอาหาร MK ที่ Central Festival
- 19.00-20.30 น. ร้านชาบูหมูสองชั้น สาขานิมมาน
(Self-quarantine และติดต่อ ICN*)
📍20 มิ.ย. 64
- 13.00-13.30 น. ร้านตัดผม ปะระวะตี ข้าง index living mall
(Self-quarantine และติดต่อ ICN*)
ขอให้ติดต่อ ICN โทร 053935714 หรือ 0936931535 และสแกน QR CODE
*เพื่อนัดวันตรวจหาเชื้อไวรัส SAR-CoV-2 และปฏิบัติตาม "แนวทางปฏิบัติสำหรับบุคลากรและนักศึกษาที่จะเข้ามายังโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หรือคณะแพทยศาสตร์ ในสถานการณ์ที่มีการระบาดของโรค COVID-19" ฉบับที่ 3 วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2564
ที่เดินทางไปยังสถานที่เสี่ยงสูงและการปฏิบัติตัว
(Update 26/06/64 เวลา 10.30 น.)
📍13 มิ.ย. 64
- 07.00-11.00 น. ร้าน Amazon ปตท. สาขาแม่เหียะ
- 13.00-15.00 น. ร้านอาหาร MK ที่ Central Festival
- 19.00-20.30 น. ร้านชาบูหมูสองชั้น สาขานิมมาน
(Self-quarantine และติดต่อ ICN*)
📍20 มิ.ย. 64
- 13.00-13.30 น. ร้านตัดผม ปะระวะตี ข้าง index living mall
(Self-quarantine และติดต่อ ICN*)
ขอให้ติดต่อ ICN โทร 053935714 หรือ 0936931535 และสแกน QR CODE
*เพื่อนัดวันตรวจหาเชื้อไวรัส SAR-CoV-2 และปฏิบัติตาม "แนวทางปฏิบัติสำหรับบุคลากรและนักศึกษาที่จะเข้ามายังโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หรือคณะแพทยศาสตร์ ในสถานการณ์ที่มีการระบาดของโรค COVID-19" ฉบับที่ 3 วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2564
เพื่อสนับสนุนบริการของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
ขอเชิญร่วมบริจาคเพื่อสมทบทุนซื้ออุปกรณ์การแพทย์
เตียงเคลื่อนย้ายและเฝ้าสังเกตผู้ป่วย
คุณลักษณะ :
-ใช้สำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
- โครงสร้างทำด้วยเหล็กคุณภาพสูง เคลือบสี
- มีความแข็งแรง สามารถใช้ในการช่วยฟื้นคืนชีพ(CPR) ได้
- มีที่เก็บถังออกซิเจนบริเวณหัวเตียง
ชุดละ 38,000 บาท
(ความต้องการจำนวน 40 เตียง)
บริจาคได้ที่ มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์ มช.
📍บริจาคผ่านการโอนเงิน
1. บัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
ชื่อบัญชี "มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่"
ประเภทบัญชี บัญชีออมทรัพย์
เลขที่บัญชี 968-002053-5
2.บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ชื่อบัญชี "มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่"
ประเภทบัญชี บัญชีกระแสรายวัน
เลขที่บัญชี 468-069896-8
และบริจาคผ่าน Mobile Application
ด้วยการ สแกนคิวอาร์โค้ด
*ส่งหลักฐานการโอนเงิน พร้อมแจ้งชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อมาได้ที่ Line ID : @sdmed หรือ E-mail : sdmed.cmu@gmail.com*
สอบถามรายละเอียดได้ที่ มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก จันทร์ - ศุกร์ โทร.053-938400
เสาร์ - อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์โทร.053-938800
#MEDCMU
#มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก
#โควิด-19
#ธารน้ำใจสู้ภัยโควิด
#MedCMUในมือคุณ
#คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ขอเชิญร่วมบริจาคเพื่อสมทบทุนซื้ออุปกรณ์การแพทย์
เตียงเคลื่อนย้ายและเฝ้าสังเกตผู้ป่วย
คุณลักษณะ :
-ใช้สำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
- โครงสร้างทำด้วยเหล็กคุณภาพสูง เคลือบสี
- มีความแข็งแรง สามารถใช้ในการช่วยฟื้นคืนชีพ(CPR) ได้
- มีที่เก็บถังออกซิเจนบริเวณหัวเตียง
ชุดละ 38,000 บาท
(ความต้องการจำนวน 40 เตียง)
บริจาคได้ที่ มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์ มช.
📍บริจาคผ่านการโอนเงิน
1. บัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
ชื่อบัญชี "มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่"
ประเภทบัญชี บัญชีออมทรัพย์
เลขที่บัญชี 968-002053-5
2.บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ชื่อบัญชี "มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่"
ประเภทบัญชี บัญชีกระแสรายวัน
เลขที่บัญชี 468-069896-8
และบริจาคผ่าน Mobile Application
ด้วยการ สแกนคิวอาร์โค้ด
*ส่งหลักฐานการโอนเงิน พร้อมแจ้งชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อมาได้ที่ Line ID : @sdmed หรือ E-mail : sdmed.cmu@gmail.com*
สอบถามรายละเอียดได้ที่ มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก จันทร์ - ศุกร์ โทร.053-938400
เสาร์ - อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์โทร.053-938800
#MEDCMU
#มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก
#โควิด-19
#ธารน้ำใจสู้ภัยโควิด
#MedCMUในมือคุณ
#คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
👧🏻👦🏻ดแลเด็กอย่างไร ? ในช่วงโควิด-19 ระบาด
เมื่อโรงเรียนเริ่มเปิดเทอม หลังจากการระบาดของโรค COVID-19 คุณครูและผู้ปกครองจะต้องเตรียมรับมือ หาวิธีป้องกัน และปฏิบัติ ตามกฏของสถานศึกษา ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนในชั้นเรียน
หลักการสำคัญของการดูแลเด็กคือ
1. หลีกเลี่ยงการออกจากบ้านไปอยู่ในที่ชุมชน หากจำเป็นต้องไปจริงๆ เด็กที่อายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไปควรสวมแมส และเด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี อาจไม่สามารถสวมแมสได้เพราะจะทำให้อากาศไหลเวียนได้ไม่ดี
2. ล้างมือให้เด็กบ่อยๆ
3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพิ่มวิตามินให้เด็กๆ
#MedCMU #MedCMUในมือคุณ
#คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #สุขภาพดีกับหมอสวนดอก
#สื่อสารองค์กรMedCMU
#COVID19
#ใส่Mask #เว้นระยะห่าง #ล้างมือ
เมื่อโรงเรียนเริ่มเปิดเทอม หลังจากการระบาดของโรค COVID-19 คุณครูและผู้ปกครองจะต้องเตรียมรับมือ หาวิธีป้องกัน และปฏิบัติ ตามกฏของสถานศึกษา ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนในชั้นเรียน
หลักการสำคัญของการดูแลเด็กคือ
1. หลีกเลี่ยงการออกจากบ้านไปอยู่ในที่ชุมชน หากจำเป็นต้องไปจริงๆ เด็กที่อายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไปควรสวมแมส และเด็กที่อายุน้อยกว่า 2 ปี อาจไม่สามารถสวมแมสได้เพราะจะทำให้อากาศไหลเวียนได้ไม่ดี
2. ล้างมือให้เด็กบ่อยๆ
3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพิ่มวิตามินให้เด็กๆ
#MedCMU #MedCMUในมือคุณ
#คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #สุขภาพดีกับหมอสวนดอก
#สื่อสารองค์กรMedCMU
#COVID19
#ใส่Mask #เว้นระยะห่าง #ล้างมือ
ติดตามผ่าน Youtube : https://youtu.be/3O9QobUaTC0
YouTube
👧🏻👦🏻ดูแลเด็กอย่างไร ? ในช่วงโควิด-19 ระบาด
👧🏻👦🏻ดูแลเด็กอย่างไร ? ในช่วงโควิด-19 ระบาด
เมื่อโรงเรียนเริ่มเปิดเทอม หลังจากการระบาดของโรค COVID-19 คุณครูและผู้ปกครองจะต้องเตรียมรับมือ หาวิธีป้องกัน และปฏิบัติตามกฏของสถานศึกษา ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยขอ…
เมื่อโรงเรียนเริ่มเปิดเทอม หลังจากการระบาดของโรค COVID-19 คุณครูและผู้ปกครองจะต้องเตรียมรับมือ หาวิธีป้องกัน และปฏิบัติตามกฏของสถานศึกษา ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยขอ…
สถานการณ์ผู้ป่วย COVID-19 ในความดูแลของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วันที่ 1 ก.ค. 2564 : 08:00 น.
มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวในรพ. มหาราชนครเชียงใหม่ (ตึกโรคปอด) รวมทั้งหมด จำนวน 10 ราย
ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 7 ราย
ผู้ป่วยที่กำลังรอผลยืนยันการตรวจเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย
ผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิด-19 จำนวน 2 ราย
ผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาอย่างใกล้ชิด จากทีมแพทย์และพยาบาล
#MedCMU #MedCMUในมือคุณ
#คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
#สื่อสารองค์กรMedCMU #COVID19
#ใส่Mask #เว้นระยะห่าง #ล้างมือ
มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวในรพ. มหาราชนครเชียงใหม่ (ตึกโรคปอด) รวมทั้งหมด จำนวน 10 ราย
ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 7 ราย
ผู้ป่วยที่กำลังรอผลยืนยันการตรวจเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย
ผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิด-19 จำนวน 2 ราย
ผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการรักษาอย่างใกล้ชิด จากทีมแพทย์และพยาบาล
#MedCMU #MedCMUในมือคุณ
#คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
#สื่อสารองค์กรMedCMU #COVID19
#ใส่Mask #เว้นระยะห่าง #ล้างมือ
พระสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อป้องกัน และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากโอกาสติดเชื้อในการมีกิจกรรมร่วมกับฆราวาส
ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ) นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดเผยว่า “ในการฉีดวัคซีนให้กับพระภิกษุสงฆ์ในจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ , มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มช. ที่จัดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 ให้กับพระสงฆ์มหานิกายและธรรมยุติ ในจังหวัดเชียงใหม่ทุกรูปที่มีความประสงค์จะรับวัคซีน ซึ่งวัคซีนโควิด-19 ที่ได้จัดฉีดในครั้งนี้เป็นโควต้าของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้นำมาฉีดให้กับพระสงฆ์โดยเฉพาะ ในวันที่ 28 มิถุนายน 2564 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อเป็นการป้องกัน และ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่พระภิกษุ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสติดเชื้อจากการมีกิจกรรมร่วมกับฆราวาส ”
พระเทพปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ วัดเจ็ดยอด (พระอารามหลวง) กล่าวว่า “พระสงฆ์ที่เข้ารับการฉีดในครั้งนี้ ได้รับรายชื่อพระภิกษุสงฆ์จากสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดเชียงใหม่ รู้สึกดีใจที่เห็นพระสงฆ์สามเณรมีการตื่นตัวในการรับวัคซีน และเห็นความสำคัญของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้น หากฆราวาสมองเห็นความสำคัญเช่นนี้ความปลอดภัยจะเกิดขึ้นในสังคมของสงฆ์ ”
พระราชรัชมุนี เจ้าคณะอำเภอเมือง เจ้าอาวาสวัดสวนดอก พระอารามหลวง กล่าวว่า “พระสงฆ์ และสามเณรอายุ 18 ปีขึ้นไป ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอำเภอแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 และได้รับดูแลเป็นอย่างดีจากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้รับความสะดวกสบาย สะอาด ปลอดภัย รวดเร็ว เป็นอย่างมาก ขออนุโมทนาให้กับเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ได้มองเห็นความสำคัญของบุคลากรทางพระพุทธศาสนา “
ด้านพระราชวิสุทธิญาณ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน(ธฺ) เจ้าอาวาสวัดป่าดาราภิรมย์ พระอารามหลวง กล่าวเพิ่มเติมว่า “หากการป้องกันโรคโควิด-19 ยังไม่เข้มแข็ง ฆราวาส พระสงฆ์ สามเณรยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 และพระสงฆ์ยังต้องมีการติดต่อกับฆราวาส เมื่อได้รับการฉีดโควิด-19 แล้ว ภูมิคุ้มกันโรคมากขึ้น แต่เมื่อมาฉีดแล้วพระสงฆ์เองก็ยังคงต้องป้องกันตัวเอง รักษาระเบียบวินัยในการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด จะเป็นการช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในประเทศได้ ขออนุโมทนาในนามของพระสงฆ์ทั้งปวง ที่ได้รับการอุปถัมภ์อย่างดียิ่งในครั้งนี้ ”
#MedCMU #MedCMUในมือคุณ
#คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
#สื่อสารองค์กรMedCMU #COVID19
#ใส่Mask #เว้นระยะห่าง #ล้างมือ
ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ) นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดเผยว่า “ในการฉีดวัคซีนให้กับพระภิกษุสงฆ์ในจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ , มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มช. ที่จัดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด -19 ให้กับพระสงฆ์มหานิกายและธรรมยุติ ในจังหวัดเชียงใหม่ทุกรูปที่มีความประสงค์จะรับวัคซีน ซึ่งวัคซีนโควิด-19 ที่ได้จัดฉีดในครั้งนี้เป็นโควต้าของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้นำมาฉีดให้กับพระสงฆ์โดยเฉพาะ ในวันที่ 28 มิถุนายน 2564 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อเป็นการป้องกัน และ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่พระภิกษุ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสติดเชื้อจากการมีกิจกรรมร่วมกับฆราวาส ”
พระเทพปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ วัดเจ็ดยอด (พระอารามหลวง) กล่าวว่า “พระสงฆ์ที่เข้ารับการฉีดในครั้งนี้ ได้รับรายชื่อพระภิกษุสงฆ์จากสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดเชียงใหม่ รู้สึกดีใจที่เห็นพระสงฆ์สามเณรมีการตื่นตัวในการรับวัคซีน และเห็นความสำคัญของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้น หากฆราวาสมองเห็นความสำคัญเช่นนี้ความปลอดภัยจะเกิดขึ้นในสังคมของสงฆ์ ”
พระราชรัชมุนี เจ้าคณะอำเภอเมือง เจ้าอาวาสวัดสวนดอก พระอารามหลวง กล่าวว่า “พระสงฆ์ และสามเณรอายุ 18 ปีขึ้นไป ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอำเภอแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 และได้รับดูแลเป็นอย่างดีจากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้รับความสะดวกสบาย สะอาด ปลอดภัย รวดเร็ว เป็นอย่างมาก ขออนุโมทนาให้กับเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ได้มองเห็นความสำคัญของบุคลากรทางพระพุทธศาสนา “
ด้านพระราชวิสุทธิญาณ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน(ธฺ) เจ้าอาวาสวัดป่าดาราภิรมย์ พระอารามหลวง กล่าวเพิ่มเติมว่า “หากการป้องกันโรคโควิด-19 ยังไม่เข้มแข็ง ฆราวาส พระสงฆ์ สามเณรยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 และพระสงฆ์ยังต้องมีการติดต่อกับฆราวาส เมื่อได้รับการฉีดโควิด-19 แล้ว ภูมิคุ้มกันโรคมากขึ้น แต่เมื่อมาฉีดแล้วพระสงฆ์เองก็ยังคงต้องป้องกันตัวเอง รักษาระเบียบวินัยในการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด จะเป็นการช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในประเทศได้ ขออนุโมทนาในนามของพระสงฆ์ทั้งปวง ที่ได้รับการอุปถัมภ์อย่างดียิ่งในครั้งนี้ ”
#MedCMU #MedCMUในมือคุณ
#คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
#สื่อสารองค์กรMedCMU #COVID19
#ใส่Mask #เว้นระยะห่าง #ล้างมือ
ติดตามผ่านช่องทาง Youtube : https://youtu.be/Vr8FK8vecMs
YouTube
พระสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
พระสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อป้องกัน และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากโอกาสติดเชื้อในการมีกิจกรรมร่วมกับฆราวาส
ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ) นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดเผยว่า “ในการฉีดวั…
ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ) นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดเผยว่า “ในการฉีดวั…